วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559

ไต้หวันทริปนี้ ไม่มี Slowlife : ฉายเดี่ยวยามดึก Part 0.5

เอาล่ะค่ะ หลังจากที่เราเตรียมตัวเรียบร้อย ได้วีซ่าและแพลนเที่ยวเรียบร้อยแล้ว
ก็ได้เวลาลุยจริงกันซะที ลุยยยยยย!!

เกริ่นก่อนว่าทริปนี้ไปกัน 5 คนค่ะ แต่ปอปอยคนนี้ห้อยติ่งตามไปทีหลัง 
สมาชิก 4 คนเข้าไปถึงกันแต่วัน ส่วนปอปอยนั้น...บินตอนค่ำของวันที่ 26 Nov 2015
ไฟล์ทบินรอบ 2 ทุ่ม ถึงไทเปเที่ยงคืนกว่า เลยกลายเป็นว่าทริปนี้บินเดี่ยว TT

บอกเลยว่าบินเดี่ยวครั้งนี้กลัวอยู่ไม่น้อยเลย ประการหนึ่งคือถึงที่สนามบินเถาหยวนตอน 12:30 AM
รถราก็ไม่มี สำนักงานส่วนใหญ่ก็ปิดกันไปหมดแล้ว ร้านขายซิมที่ใช้สื่อสารก็ปิดไปตามระเบียบ

ที่สำคัญ คือ ภาษา ถึงจะบอกว่าสนามบินก็เถอะ เรื่องการพูดสื่อสารนี่ตื่นเต้นบอกไม่ถูกเลย
ประเทศที่ใช้ภาษาจีนเป็นส่วนใหญ่แบบนี้ (สกิลจีนและอังกฤษมีอยู่น้อยนิด) 
เล่นเอาตื่นเต้นบอกไม่ถูกเลยค่ะ

ตามไปดูกันว่าการผจญภัยของปอปอยครั้งนี้จะเป็นอย่างไรกันนะ ;)

..................................................................

26 Nov 2015

เรามาถึงสนามบินดอนเมืองตอนประมาณ 6 โมงเย็น ตรงช่องเช็คอินของเราคนไม่เยอะ
ตอนแรกหาที่เช็คอินของ Tiger Air ไม่เจอด้วยนะ ก็เล่นเข้าไปอยู่ 2 ช่องในสุด 
ตรงที่ด้านหน้าเป็นของ Nokair ไงล่ะ ตรงชะเง้อมองเข้าไปแบบอยู่นั่นไง นี่แค่เริ่มก็พังแล้ว 555

จัดการยื่นเอกสารการจองตั๋ว พร้อมกับ passport ให้พนักงานเรียบร้อย
เราไม่ได้โหลดกระเป๋า พนักงานให้เอากระเป๋าวางชั่งน้ำหนักก็รอดไปไม่เกิน 7 โล 
แล้วพนักงานก็ติด tag สัมภาระขึ้นเครื่องให้ เป็นอันเรียบร้อย

เดินเล่นป่วนเปี้ยนอยู่ในสนามบิน ตรงเกทขึ้นเครื่องนั้นแหละ
เราชอบเข้ามาก่อนเวลา เพราะจะใช้สิทธิ์ของ Trueyou รับของกินและเครื่องดื่มตลอด 
ครั้งนี้ก็เช่นกัน เล่นเอาคืนนี้ไม่หิวกันไปเลย 555


มาคนเดียวต้องมีสติและระวังตัวหน่อยนะ เพราะสัมภาระก็ใหญ่ ของมีค่าก็มี
เลือกที่นั่งดีๆ ใกล้ห้องน้ำ แล้วก็วางของให้เรียบร้อย เวลาเดินไปไหนก็เอาของมีค่าติดตัวไปด้วยเนอะ

ก่อนเวลาเล็กน้อยติดต่อสมาชิกทางไทเปหน่อยว่าบินแล้วน้า เขาจะได้รู้ว่าเราไม่ตกเครื่อง 555
มาถึงเวลา 2 ทุ่มได้เวลาเครื่องออกซะแล้ว ได้ที่นั่งริมหน้าต่างด้วย 

จากตรงนี้ได้คุณลุงจากเชียงคานและอาจารย์ชาวไต้หวันกลับมาเป็นเพื่อนด้วยนะ
เพราะที่นั่งติดกัน เราเห็นว่าเป็นคนไต้หวันเลยถามเรื่องการเดินทางว่าจะไปเจอเพื่อนๆที่ Ximen ได้ยังไง
งานนี้เลยได้คุยกันยาวๆ เลยค่า แต่ก็แอบง่วงเบาๆ

บินกลางคืนไม่มีวิวอะไรได้เห็นหรอก ซะที่ไหนกัน!!
ระหว่างทางอ่ะมองไรไม่เห็นจริง แต่พอถึงเกาะไต้หวันเท่านั้นแหละ
ตื่นเต้นมาก คือสวย แสงไฟเต็มเกาะไปหมด แถมยังเห็นแสงไฟจากเรือในทะเลอีกตั้งหลายลำ


ตอนแรกเข้าใจว่าแสงไฟของเรือคือไฟบ้านในชนบทที่ห่างออกไป
แต่ความจริงมันก็น้อยเกินไปสำหรับบ้านต่างจังหวัดอยู่ดี 555

ได้เวลาที่เครื่องบินจะลงจอดแล้ว ตอนนั้นไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจออะไรบ้าง
แต่ก็เชื่อว่าเอาตัวรอดได้อยู่บ้าง (แม้จะน้อยนิดก็ตาม)

นี่ยังไม่รวมถึงสภาพอากาศที่คุณลุงข้างๆ บอกมาว่าหนาวเย็น 
ก็เล่นใส่เสื้อหนาๆ กันทั้งเครื่อง บางคนก็เอร์ ขนเป็ดมาเต็ม
เล่นเอาเสื้อหนาวตัวที่ถืออยู่ดูกันอะไรจากความเย็นไม่ได้เลย 555

พอเครื่องลงจอดก็แยกย้าย เราก็เดินดุ่ยๆ ถือกระเป๋าลงเครื่อง
ตามๆ คนที่เขาเดินนำหน้ากันมาอ่ะแหละ จนมาถึงโถงกว้างๆ หลังคาสูงๆ 
ก็เห็นร้านขายซิมอยู่ 3 ร้าน แต่ปิดดดดดด ทุกร้านเลยค่ะ T^T
(ใจแอบหวังว่าจะเปิดขายอยู่นะ ถึงข้อมูลจะบอกว่าร้านปิดก็เถอะ 555)


จากร้านขายซิมเดินเลี้ยวขวามา จะเจอฝูงชนที่ตอนแถวรอตรวจคนเข้าเมือง
นี่ก็เดินงงๆ คือมันเที่ยงคืนกว่าแล้วไง ง่วงด้วย ไม่ค่อยรู้ภาษาด้วย
ดีนะเดินต่อแถวถูกช่อง ไม่ไปยืนต่อตรงประชากรไต้หวัน 555


ระหว่างนี้ดูแฟชั่นอากาศหนาวไปพลางๆ ส่วนตรวจคนเข้าเมืองก็ปกติค่ะ
เราเดินตามจุดที่เขากำหนด แล้วก็จัดแจงถอดแว่นกับเปิดหน้าม้าขึ้นตามปกติ 
เนื่องจากหน้าไม่เหมือนใน passport เท่าไหร่นัก 555

- - ที่สนามบินมี Wifi ให้ใช้ ฟรี เลยนะคะ
สัญญาณก็แรงพอตัวเลยค่ะ เห็นคนเยอะๆ แต่เน็ตก็ยังเล่นได้นะจ๊ะ
จัดแจงต่อWifi แล้วทักไปหาเพื่อนทันที บอกว่ามาถึงแล้ว 
กำลังหาทางไปที่พักจ้า - -

** จากตั๋วบินที่เราจองไป เขามีบริการรถรับไปส่งที่  Taipei Main Station ด้วยนะ
ก่อนวันบินประมาณ 2 วัน เจ้าหน้าที่จะโทรแจ้งเลขทะเบียนและชื่อคนขับรถมาให้ในอีเมล
ซึ่งเขาจะรอรับเราอยู่ที่ทางออกประมาณ 1  ชั่วโมงครึ่ง ทำให้หลังจากลงเครื่อง
เราต้องรีบต่อแถว เพื่อให้ทันเวลาก่อนที่รถของ Tiger air จะออกไปด้วย **

พอเดินออกมาก็มองหาคนขับรถเลยค่ะ เขาจะยื่นถือป้ายที่บอกไว้ตามในอีเมล
ที่แปลกใจคือ มีเราคนเดียว โอ้วววว รู้สึก private สุดๆ
แต่อย่าเพิ่งดีใจ เราไม่ได้จะไป Taipei Main Station เห็นดึกขนาดนี้แล้ว
เลยลองคุยดูว่าเขาจะพาเราไปที่พักตรง Ximen ได้เลยรึเปล่า

บทสนทนาจึงเริ่มขึ้น 
.
.
.
งัดภาษาอังกฤษที่มีอยู่น้อยนิดบอกเขาไปเลยค่ะ ว่าไปส่งที่พักตรง Ximen ได้มั้ย
แล้วก็หยิบเอกสารที่พักมาให้เขาดูค่ะ ดูท่าทางเหมือนเขาไม่เข้าใจ 

เรามีการใช้ Google Translate ทั้งตัวหนังสือจากอังกฤษเป็นจีน 
เพื่อหาชื่อถนนและซอย เงอะงะกันซักพัก เขาก็ดูท่าจะเข้าใจแล้ว
(ณ จุดนั้น ทั้งดีใจและไม่ค่อยแน่ใจว่าจะถึงปลายทางมั้ยนิดๆ 555)

 จากนั้นคุณลุงใจดีก็พาเราเดินออกมาตรงลานจอดรถค่ะ
เวลาตี 1 กว่าๆ อากาศตอนนั้นเย็นเลยทีเดียว ดีนะที่เสื้อหนาวกันหนาวเอาอยู่


รถดีมากเลยค่ะ คันใหญ่นั่งได้ 4-5 คนเลยค่ะ
แต่เราได้นั่งคนเดียวเลย ต้องขอบคุณ Fantacy Taiwan ด้วยนะคะ
ที่ช่วยให้การเดินทางครั้งนี้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นนะคะ ^^


ที่นี้ระหว่างนั่งรถเดินทางเข้าเมือง ลุงใจดีก็เปิด wifi บนรถให้ต่อ 
ทำให้พูดคุยกับเพื่อนที่รออยู่ได้ ขอบคุณที่ตื่นรอเค้าถึงที่พักกันน้า ^0^

นั่งรอมาได้ประมาณ 40 นาทีก็ถึงซอยที่พักตรง Ximen แต่รถดันขับไปอยู่หลังที่พัก
เลยให้คุณลุงจอดรถสักครู่ เพื่อให้เพื่อนมารับ สุดท้ายนัดกันที่ 7 Eleven ง่ายสุด
เพราะเห็นชัดเจนและมีแสงสว่าง ตอนแรกรถจอดตรงโรงแรมมืดๆ นี่ไม่กล้าลงจากรถเลย
ก็เล่นเงียบ มืด ไม่มีคนเดินขนาดนี้ กลางคืนนี่น่ากลัวชะมัด

รอจนเพื่อนลงมารับ ผมนี่ใจชื้นขึ้นมาเลย ไม่ใช่ไรหรอกนะ ดีใจรอดแล้วค่าาาา ^0^


เราก็เลยให้ทิปเป็นน้ำใจคุณลุงเขาซะหน่อย (ทางไต้หวันถือว่าเป็นการเสียมารยาทรึเปล่าก็ไม่รู้อ่า)
ก็เขาอุตส่าห์พามาส่งนอกเส้นทาง แถมดึกขนาดนี้ ถึงจะเป็นหน้าที่ก็ถือว่ารับผิดชอบได้ดีเยี่ยมเลยล่ะ

ในที่สุดเราก็ได้พบกับสมาชิกอีก 4 คนที่รอเราไปถึงที่พักในค่ำคืนนี้
ต้องขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ที่เป็นห่วงด้วยน้า
แต่ถือได้เลยว่าการบินเดี่ยวครั้งนี้ ผ่านไปได้ด้วยดีและปลอดภัยในต่างแดนค่า ^^

พูดถึงที่นอนคืนนี้กันซะหน่อย เราพักกับทาง Airbnb 
หาเจอยากหน่อย บางทีอาจแค่สับสนกับทิศทางของตึกที่หน้าตาเหมือนกันแถวๆ นั้น
ในส่วนของห้องนอนจะเป็นฟูกนอน นอนได้ 4-5 คน เป็นห้องแอร์ มีห้องน้ำในตัว (ไม่มีน้ำอุ่น)
มีผ้าเช็ดตัวให้ตามจำนวนคน โดยรวมใช้ได้เลยล่ะ


แต่เราโชคไม่ค่อยดี เจอเสียงห้องข้างๆ ดังไปหน่อยทั้งคืน
ส่วนห้องน้ำเวลาเปิดใช้หรือกดชักโครกเสียงน้ำจะไหลดังยาวนานมากกว่าจะเงียบได้ตั้งนาน

สำหรับฉายเดี่ยวยามดึกคืนนี้ขอตัวลาไปนอนก่อน
พรุ่งนี้เช้าคือทริปของจริง แล้วไว้พาไปตะลุยไต้หวันกันนะคะ

............................................................................

" บินไปต่างประเทศคนเดียว...ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
เตรียมตัวให้พร้อม...มีสติในทุกการกระทำนะ "






วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559

ไต้หวันทริปนี้ ไม่มี Slowlife : เตรียมตัว Part 0


กลับเข้าสู่โลกของการเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง 
หลังจากไปเที่ยวมาหลายทริปแต่ก็ดองไว้ไม่ได้เขียนซะที 555

ครั้งนี้มีโอกาสไปเที่ยว ไต้หวัน 
แถมเป็นการบินเดี่ยวยามค่ำคืนครั้งแรก ทั้งตื่นเต้นและหวาดกลัว 555

ครั้งนี้เห็นมีเพื่อนถามกันมาเยอะ เลยคิดว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว
เขียนไว้ให้อ่านเป็นข้อมูลซะเลยดีกว่า 

เอาล่ะ ไม่รอช้า
ตามไปดู-ชม-อ่านกันได้เล้ยยยยยย

------------------------------------------------------------------------

Part 0 : เตรียมตัว

ในการจะบินไปเที่ยวเราก็ต้องเริ่มจากตั๋วบินก่อนใช่ป่ะ
ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายเจ้ามากๆ ราคาในช่วง Wintet ที่ได้มาอย่างถูก
ควรอยู่ประมาณ 3000-5000 บาท รวมไป-กลับ

ตั๋วบิน

  


ครั้งนี้เราบินขาไปด้วยสายการบิน Tiger Air ในราคา 2500 บาท (เฉพาะขาไป)
มีเที่ยวเดียวคือ บิน 20:00 >>> ถึง 00:30
เราซื้อในงานท่องเที่ยวที่ศูนย์สิริกิต ทำให้ได้ตั๋วบิน พร้อมบริการ 1 อย่าง 
เลือกจาก อาหารบนเครื่อง หรือ โหลดกระเป๋า 10 โล หรือ รถไปส่ง Taipei Main Station
โดยเราเลือกเป็นรถไปส่งที่ taipei main เพราะเราบินถึงดึกการหารถเข้าเมืองทำได้ยากมากมาย

ส่วนตั๋วบินกลับ เราซื้อในงานเช่นกันเป็นของ VAIR สายการบินหมีน่ารักของไต้หวัน
ได้มาในราคา 2498 หรือประมาณ 2500 เช่นเดียวกัน (เฉพาะขากลับ)
ส่วนนี้ได้แค่น้ำหนัก 10 กิโลกรัมถือขึ้นเครื่องเท่านั้น

** ไม้ GoPro ตอนขาไปจากไทยถือขึ้นเครื่องได้ 
แต่ขาออกจากไต้หวันต้องทิ้ง เพราะความยาวเกินกฎที่ตม.กำหนด
กรุณาโหลดลงใต้เครื่อง ไม่งั้นต้องทิ้งนะจ๊ะ T^T **

** ขากลับออกจากไต้หวัน สัมภาระทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น
การเป๋าเดินทาง กระเป๋าถือ หรือของใาก ทุกอย่างต้องชั่งรวมกันแล้วไม่เกิน 10 กิโลกรัม
ไม่งั้นต้องโหลดนะจ๊ะ ค่าโหลดก็ 1500 NT  ได้ 15 กิโลกรัมนะ (หน้าเคาน์เตอร์) T^T 
ในเว็บอยู่ที่ 15 กิโล ราคา ประมาณ 600 บาท**

อย่าสงสัยที่เราได้ตั๋วแพงเลยนะ ก็เพราะอะไรๆ ไม่ตรงแผนเท่าไหร่นัก 
เลยได้มารวมไปกลับ 5000 บาท จบนะ ><"

---------------------------------------------------------------

จองที่พัก

ในส่วนนี้เลือกกันตามสบายเลยค่า อยากนอนที่ไหน  จัดโล้ดดดดดด!!
ที่แนะนำให้จองที่พักเลย เพื่อความสะดวกและเป็นข้อมูลในการขอวีซ่าด้วยค่ะ
เนื่องจากเราต้องมีแพลน เพื่อไปขอวีซ่า เพราะงั้นเราก็เลยต้องมีที่นอนไปบอกเขาว่าเรานอนที่ไหนบ้าง

ส่วนเราทริปนี้ได้ใช้บริการของ AirBNB ครั้งแรก เดี๋ยวเป็นยังไงไว้ดูกัน part หน้านะจ๊ะ 

---------------------------------------------------------------

ขอวีซ่าไต้หวัน

เราจะบอกข้อมูลส่วนนี้นิดหน่อย เพราะคงหาในเน็ตได้
แต่จะบอกถึงวันที่ไปทำว่าไปกี่โมง แล้วยังไงต่อ
แล้ววันที่ไปรับวีซ่าที่อนุมัติเป็นยังไง ใช้เวลาเท่าไหร่บ้างนะ

เราสามารถยื่นแทนเพื่อนด้วยล่ะ แต่ถ้าไม่อยากมีปัญหาไร ไปเองก็ชัวร์กว่าเยอะ

1. เอกสารขอวีซ่า
เราต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม การกรอกเอกสารในเว็บดูรายละเอียดตามนี้เลย
ขออนุญาตแปะ Link ภายนอกที่เราใช้เป็นข้อมูลตอนขอวีซ่านะ

2. รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ
มีตั้งแต่ 150 บ. ไปจนถึง 500 บ. เลยทีเดียว
บอกร้านว่าถ่ายรูปทำวีซ่า 2 นิ้ว จะครึ่งโหลหรือโหลนึง ตามสบาย

3. สำเนาทะเบียนบ้าน + สำเนาบัตรประชาชน 
เซ็นสำเนาถูกต้อง อย่างละ 1 ชุด

4. ใบรับรองการทำงาน
ขอเราทำงานแล้ว ไปขอกับพี่ HR ได้เลย
บอกพี่เขาว่า ขอใบรับรองการทำงานเป็นภาษาอังกฤษ
ระบุช่วยวันที่จะไปเที่ยวให้ชัดเจน ในใบควรมีชื่อตไแหน่งและเงินเดือน

5.ใบรับรองทางการเงิน
ในส่วนนี้เราถ่ายเอกสารรายการทางการเงินย้อนหลังไป 6 เดือนเลย เอาให้ชัวร์
เป็นเล่มที่มีเงินเดือนเข้าทุกเดือนจะเห็นยอดชัดสุด 
(เราไม่ได้ไปขอ statement ที่แบงค์นะ ไม่มีเวลา วิธีเร็วสุดก็เลยเอาวิธีนี้)

6. สำเนา passport (อายุใช้งานเหลือเกิน 6 เดือนนะ) + Passport ตัวจริง (ยื่นวันไปขอวีซ่า)

6. สำเนาเอกสารตั๋วบินที่ซื้อไว้แล้ว

7. เอกสารการจองที่พักในแต่ละคืน

8.แพลนเที่ยวในไต้หวัน 

9. เงินจำนวน 1,500 บาท สำหรับทำวีซ่าไต้หวัน

-------

พอเอกสารเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็ไปยื่นกันเลยดีกว่า
เราไปถึงตอน 6 โมงเช้า ลงสถานีช่องนนทรีแล้วเดินไปที่ตึกเอ็มไพร์
แลกบัตรให้เรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะแจ้งว่าเปิด 9 โมง ให้เราเดินไปที่ทาวเวอร์ 2 (ขึ้นให้ถูกตึกนะ)
จะมีป้ายบอกทางอยู่ ให้กดลิฟท์ไปที่ชั้น 20  พอขึ้นมาก็มีคิวต่ออยู่แล้ว เราเลยได้คิวที่ 4 


นั่งรอไปเรื่อย พอคนเริ่มเยอะก็เริ่มมีเจ้าหน้าที่มาช่วยจัดแถวขยับคนให้ต่อแถวกันได้
ไม่มีแจกบัตรคิวนะ จนถึงเวลา 9 โมงเช้าประตูก็เปิด เจ้าหน้าที่จะแบ่งคนให้เข้าไปรับบัตรคิวด้านใน
จะมีเจ้าหน้าที่แจกบัตรคอยถามว่า ไหนเอกสาร จะขอวีซ่าไปทำอะไร
มีเพื่อนมาด้วยรึเปล่าหรือยื่นแทนใครมั้ย

**ถ้ามีเพื่อนมาด้วยสามารถเข้าไปทำคิวเดียวกันได้เลยทีเดียว แม้จะต่อด้านหลังก็ตาม ซึ่งดีมาก 555**
**เจ้าหน้าที่จะช่วยดูเอกสารให้ก่อนที่จะยื่นบัตรคิวให้ เพื่อนไม่ให้เป็นการเสียเวลา แต่ก็ดูแค่ผ่านๆ**

พอเข้ามาด้านใน ให้นั่งรอเรียกคิวตามเบอร์ที่ได้รับมา
พอถึงคิวก็แค่ไปยื่นที่ช่องนั้นๆ ยื่นเอกสาร รูปถ่าย พร้อมเงิน 1500 บาท
พอยื่นครบทุกคนเรียบร้อย (5 คน) เจ้าหน้าที่จะให้บัตรนัดรับมา

เรามา 6 โมง ได้คิวที 4 ประตูเปิด 9 โมง ยื่นเสร็จตอน 9:30 ถือว่าเร็วอยู่และไม่กินเวลาทำงานมากนัก
เท่านี้ก็รอ 3 วันทำการ

มาต่อกันที่วันรับเล่มวีซ่ากันเลย ไม่ใช่มารับได้ง่ายๆนะ 
ควรมารอก่อนบ่ายโมง เพราะเจ้าหน้าที่จะให้รับบัตรตอนบ่ายโมงตรง
(ไม่ใช่ว่ามีใบรับแล้ว จะมายื่นรับเล่มคืนได้เลยนะ ต้องรอจ้า)

พอเรายื่นบัตรตอนบ่ายโมงแล้ว ทีนี้ก็มานั่งรอค่ะ ยาวๆ ไป จนนู่น 4-5 โมงเย็นแหละค่ะ
ถึงได้เล่ม passport พร้อมวีซ่าคืน เพราะงั้นถ้าจะไปรับเล่ม กรุณาลางานช่วงบ่ายเลยนะ




ในที่สุดก็ได้วีซ่ามาแล้ว เย่ๆ

---------------------------------------------------------------

แลกเงิน



เราแลกเงินที่ Super Rich ตอนนี้มีเปิดหลายสาขามากและหลากหลายสี
แนะนำเช็คราคาเทียบกันให้ดีจะได้ไม่แลกแพงกันนะคะ

เรทที่เราได้มาในช่วงตุลา 2015
1 บาท = 1.115 NT
---------------------------------------------------------------

ซิมการ์ด

ไปซื้อที่ไต้หวันเลย พอลงสนามบินเถาหยวน เดินออกมาเพื่อไปตรวจคนเข้าเมือง
ตรงทางออกจะเห็นเคาน์เตอร์ขายซิมอยู่ 3 เคาน์เตอร์ เลือกกันได้ตามสบายเลยจ้า
มีให้เลือกได้ทั้งแบบเน็ต+โทร / โทร / อินเตอร์เน็ตอย่างเดียว
ส่วนใหญ่เปิดทำการอยู่ที่ 8:00-22:00 ส่วนเราไปถึงเที่ยงคืน อดซื้อซิมใช้เลย แต่เราก็มีข้อมูลมาให้นะ ^^



---------------------------------------------------------------

ตั๋วรถไฟล่วงหน้า

เรามีแผนจะไปเมืองไทจง เพื่อไป Sun Moon Lake 
เพราะงั้นจองตั๋วไปก่อนถูกกว่า ยิ่งถ้าช่วงโปรก็ยิ่งลดไปอีก
ในครั้งนี้เลือกนั่งจากไทเปไปยังไทจง ได้มาในราคา 753.8 บาท  ส่วนราคาปกติคือ 765NT
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

---------------------------------------------------------------

โหลด app

การเดินทางโดยไม่รู้ภาษา ควรใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโชยน์
เราเลือกที่จะใช้ Google app ในการช่วยแปลภาษา 
ทั้งพูดหรือเอกสาร ที่เป็นภาษาอังกฤษให้เปลี่ยนเป็นจีน

Taipei metro 
สำหรับเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินที่ไต้หวัน

Google map 
ไว้สำหรับดูเส้นทางไปแต่ละที่ที่จะเดินทางไปเที่ยว

Taiwan taxi
อันนี้ไม่ได้ใช้ เน้นพูดสื่อสารกันมากกว่า
แต่มีติดเครื่องไว้ก็ดี

---------------------------------------------------------------

เช็คสภาพอากาศ

เราไปอากาศเริ่มหนาวพอดี บางวันอยู่ที่ 12 องศา หนาวสุดบรรยาย บรึยยยยย

---------------------------------------------------------------

เอาล่ะ เตรียมตัวเรียบร้อย เราพร้อมแล้วที่จะไปตะลุยไต้หวันกัน
เก็บกระเป๋า แล้วก็ Go go go!!