วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559

น้ำมันมะพร้าว De Coco Extra Virgin Coconut Oil คุณประโยชน์หลากหลายที่ได้มาจากธรรมชาติ 100%

เหยยยยย มันดีอ่ะ!
ฮ่าๆๆ เพื่อนๆ ไม่ต้องตกใจตามปอยไปนะ นี่กำลังตื่นเต้นกับการได้ลอง

De Coco Extra Virgin Coconut Oil
น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์สกัดเย็น จากธรรมชาติ 100%


คือบรรจุภัณฑ์ของ De Coco เขาจะมาแบบมินิมอลนะ ขวดใสๆ เห็นน้ำมันมะพร้าวข้างใน
ซึ่งสกัดมาจากน้ำมันมะพร้าวที่ดีที่สุดในประเทศไทย
มีฉลากบ่งบอกชัดเจนว่าเป็น Pure Oil From Thailand ดีงาม!

ฝาเป็นแบบเกลียวหมุน เปิดออกมาจะมีจุกปิดกันน้ำมันหกเลอะเทอะอีกชั้นนึง
แค่ดึงฝาชั้นในออกก็เทน้ำมันมะพร้าวมาใช้ได้แล้วล่ะ!


เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นน้ำมันใสๆ ไม่มีสี มีกลิ่นหอมอ่อนโยนที่ได้จากธรรมชาติ


ที่กรี๊ดหนักมากก็เพราะอย่างที่รู้กันว่ามีคุณประโยชน์หลายด้านมากๆ 
หนึ่งในนั้นสามารถนำมาใช้เป็น "ที่เช็ดเครื่องสำอาง" ได้!
มาถึงตรงนี้ ต้องพิสูจน์กันหน่อยแล้ว เตรียม Coconut Oil กับสำลีกันไว้เลย


วิธีการใช้ 

ให้หยดน้ำมันมะพร้าวลงบนสำลีปริมาณนึง 


จากนั้นเช็ดค่อยๆ เช็ดให้ทั่วผิวหน้า อยากบอกว่าใช้แทน Baby Oil ได้เลยนะ
เช็ดออกง่าย ไม่ต้องถู แค่วางสำลีค้างไว้ประมาณ 3 วิ แล้วลูบออกเบาๆ ก็เช็ดเครื่องสำอางออกแล้ว


หลังจากเช็ดล้างทั่วใบหน้าเรียบร้อยแล้ว ยังทิ้งความมันหลงเหลืออยู่บนผิว
แค่ใช้กระดาษเช็ดหน้า วางทางลงบนผิวหน้า ใช้มือกดเบาๆ ให้ทั่ว ช่วยซับความมันออกจากผิว


เพียงเท่านี้ก็ล้างเมคอัพออกได้สะอาดเกลี้ยง หน้าไม่มันเยิ้ม แถมยังช่วยบำรุงให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านอีกด้วยนะ


นอกจากนี้แล้วยังมีคุณประโยชน์อื่นๆ อีกเพียบเลยนะ 
ไม่ว่าจะเป็นใช้บำรุงผิวหน้าหลังล้างน้ำ, บำรุงผิวกายหลังอาบน้ำ, บำรุงผมหลังสระ,
ใช้เป็นส่วนประกอบแทนน้ำมันพืชหรือจะดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอนวันละฝา
   

สำหรับปอยว่า De Coco Extra Virgin Coconut Oil ใช้ล้างเครื่องสำอางออกจากผิวหน้าได้ดีมากๆ
ไม่แพ้ ไม่เป็นสิวด้วย เรียกได้ว่าดีงามเลยแหละ แนะนำให้ลองกันนะคะ ^^


หน้าใสไรสิว ด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจากเมืองไทยแบบนี้ต้องอุดหนุนหนักๆ กันหน่อยแล้ว

ขอบคุณที่อ่านมาจนจบน้า แล้วพบกันใหม่จ้า 

Lavish Emulsion Intensive White-Repair Serum เซรั่มเพื่อผิวหน้ากระจ่างใสสมบูรณ์แบบ


สวัสดีค่ะสาวๆ 
ช่วงนี้หน้าฝนแล้ว เห็นเมฆครึ้มๆ มาเนี่ย ไม่โอเคกันเลยเนอะ
ยังไงดูแลรักษาสุขภาพกันเยอะๆ น้า

ส่วนเรื่องของผิวสวยหน้าฝน วันนี้ปอยมีไอเท็มใหม่มาช่วยบำรุงผิวหน้าให้กับสาวๆ มาบอกกันค่ะ

Lavish Emulsion Intensive White-Repair Serum
ครีมบำรุงผิวหน้า เพื่อผิวสวยแข็งแรงจาก Cream De Latex


บรรจุภัณฑ์

ภายนอก : กล่องกระดาษสีขาว มีชื่อผลิตภัณฑ์ชัดเจน บอกคุณสมบัติและส่วนผสมละเอียดเลยททีเดียว
ภายใน : เป็นขวดสีเขียว ฝาทอง พร้อมชื่อผลิตภัณฑ์ชัดเจน 


ฝาสามารถเปิดได้โดยการดึงขึ้นออก แล้วจะเห็นหัวปั๊มของเซรั่มหน้าตาเป็นแบบนี้


เนื้อเซรั่มเป็นครีมสีขาว กลิ่นหอมอ่อนๆ ผลลัพธ์ 5 ประการที่ทางแบรนด์เคลมมา มีดังนี้
ลดเลือนริ้วรอย, ผิวกระจ่างใส, เรียบเนียน, ไร้สิว, ผิวเด้งกระชับ
มีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นยาวนานมากถึง 12 ชั่วโมง



 วิธีการใช้งาน

ปั๊มเนื้อครีมออกมาประมาณ 2-3 ปั๊มลงบนฝ่ามือ จากนั้นใช้ฝ่ามือ 2 ข้างถูให้ทั่ว
จากนั้นทาลงบนผิวหน้าเบาๆ ให้ทั่ว เนื้อครีมจะค่อยๆ ซึมลงสู่ผิว


ก่อนใช้และหลังใช้ผลิตภัณฑ์ 

ก่อน : ผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง ขาดความกระชับ 
หลัง : ผิวดูกระจ่างใสขึ้น รู้สึกได้ว่ารูขุมขนกระชับขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น ที่สำคัญไม่แพ้และไม่เกิดเป็นสิวอีกด้วยค่ะ


ความรู้สึกหลังจากที่ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์

รู้สึกว่าเป็นครีมเซรั่มอีกตัวที่ช่วยบำรุงผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส กระชับและเรียบเนียนขึ้น
เนื้อครีมเข้มข้น ทาบางๆ ซึมลงสู่ผิว แต่ใช้เวลานานหน่อย ทาแล้วอยู่ในห้องแอร์ซักพักช่วยได้นะ ;)





สำหรับวันนี้ลากันไปก่อน แล้วกลับมาพบกันใหม่น้า :)

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559

มาร์กหน้าสุด Cute สนุกไปกับ Mediheal Line Friends


ช่วงนี้ปอยกำลังสนุกไปกับเมาร์กหน้าตัวการ์ตูนคาเรคเตอร์ต่างๆ ค่ะ
และที่กำลังกรี๊ดมากๆ ก็เป็นมาร์กที่ใช้ LINE Characters มาดึงดูดให้น่าสนใจเนี่ยแหละ!


Mediheal Line Friends 
แผ่นมาร์กหน้า เพื่อการบำรุงผิวหน้า

ทาง Mediheal เค้าออกแบบมาส์กมาทั้งหมด 4 สูตรด้วยกัน ได้แก่ 
สีเหลือง : ช่วยลดริ้วรอบ ยกกระชับ 
สีเขียว : ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย ลดความมัน ป้องกันการเกิดสิว
สีน้ำเงิน :  ช่วยเติมน้ำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น
สีชมพู : ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส


แบรนด์ MEDIHEAL เป็นแบรนด์ของเกาหลีค่ะ
เราจึงเห็นบนซองผลิตภัณฑ์เต็มไปด้วยภาษาเกาหลีเต็มเลย ><"


ปอยขอพูดถึง 2 สูตรด้วยกันค่ะ
สีเหลือง : ช่วยลดริ้วรอบ ยกกระชับ 
สีเขียว : ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย ลดความมัน ป้องกันการเกิดสิว

บรรจุภัณฑ์ภายนอก โดดเด่นด้วยหมี Brown กับลูกเจี๊ยบ Sally
เป็นซองมาร์กหยิบจับถนัด พกพาสะดวก แค่ภายนอกก็น่ารักขนาดนี้ ไม่ให้หยิบใช้ได้ไงล่ะ ><"


ด้านหลังของซองมีฉลากภาษาไทย บอกชื่อผลิตภัณฑ์, คุณสมบัติ, ส่วนประกอบ
, วิธีการใช้งาน และข้อมูลที่ชัดเจนครบครัน


ช่วงนี้รู้สึกผิวหย่อยคล้อยไม่กระชับค่ะ เพราะในแต่ละวันพักผ่อน้อยมากๆ แถมยังขาดการบำรุง
เลยได้หยิบสูตรสีเหลืองที่ช่วยลดริ้วรอยและยกกระชับผิวหน้ามาใช้


มาส์กสีเหลือง ชื่อสูตรว่า EGT Timetox Ampoule Mask ค่ะ ให้ประโยชน์ในเรื่องของการลดริ้วรอย ให้ผิวดูเต่งตึงกระชับขึ้น ให้ผิวดูมีชีวิตชีวามากขึ้น เหมาะมากกับผิวขาดการบำรุงและพักผ่อนน้อยแบบนี้ค่ะ 


ด้วยสารอะดีโนซิน ที่มีประสิทธิภาพช่วยลดเลือนริ้วรอยผสานกับอี.จี.เอฟ. ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย



ขณะใช้มาร์กหน้า จะให้ความรู้สึกนุ่มและเนียนเรียบไปกับผิวค่ะ 
แผ่นมาร์กค่อนข้างใหญ่ รับพอดีกับใบหน้ากลมๆ ของปอยดีเชียวล่ะ 555 


แผ่นมาร์กหน้าเซลลูโลสผลิตจากเส้นใยบริสุทธิ์ที่สกัดจากใยฝ้ายอุดมด้วยสารอาหารและความชุ่มชื้นปริมาณเทียบเท่ากับ 1 แอมมูล
จึงให้สัมผัสที่นุ่มเหมือนผ้าไหม ช่วยให้เอสเซนส์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี


แผ่นมาร์กหน้าเป็นสีขาว ชุ่มด้วยเนื้อผลิตภัณฑ์ โดดเด่นด้วยลายหมี Brown สุดเก๋
น่ารักมุ้งมิ้งมากเลย เหมือนมีน้องหมีหอมแก้มตลอดเวลา >,<
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุดแรง ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสุดๆ คือปกติพวกสูตรลดริ้วรอยมักจะมีกลิ่นฉุดๆ ซึ่งอันนั้นไม่โอเคเท่าไหร่นะ 555

Before

After
มาดูสภาพผิวหน้าก่อนและหลังใช้กันค่ะ สังเกตได้ชัดเลยว่าผิวดูกระชับ เรียบเนียนขึ้น
หลังใช้ยังสามารถนำเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เหลืออยู่ในซอง ลูบไล้คอเพื่อบำรุงเพิ่มได้อีกด้วยนะคะ

โดยรวมแล้วที่มาร์กหน้า LINE ให้ความรู้สึกดีมากเลยค่ะ
ซองบรรจุสวยงาม พกพาสะดวก ราคาน่ารัก แถมคุณสมบัติในการใช้งานยังมีให้เลือกหลากหลายอีกด้วย

สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาสกินแคร์ในการบำรุงผิว ที่มาร์กหน้า LINE เป็นอีกทางเลือกนึง
ที่ช่วยบำรุงผิวได้ แม้ในชั่วโมงเร่งด่วนหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

 ตอนนี้ที่ไทยมีขายแล้วนะ ราคาแผ่นละ 179 บาท หาซื้อได้ตามร้านค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปจ้า :D


วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Nature Republic Ice Sun กันแดดแนวใหม่ เย็นสบายผิว ใช้ได้ทุกวัน

ฮัลโหลสาวๆ ถึงแม้จะเข้าหน้าฝนกันแล้ว
แต่แสงแดดก็ผ่านทะลุเมฆมาทำร้ายผิวสวยของเราอยู่ดีนะจ๊ะ

วันนี้ปอยมีกันแดดแนวใหม่มารีวิวให้ทุกคนได้ดูกัน!!


นี่เลย!

Nature Republic 
Provence Calendula Ice Puff Sun SPF 50 PA+++

ครีมกันแดดแนวใหม่ ให้สัมผัสเย็นบนผิว มาพร้อมพัฟ
ช่วยป้องกันแดด แถมยังกันน้ำ มีสารสกัดจากดอกดาวเรืองช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส ต่อต้านการเกิดริ้วรอย


บรรจุภัณฑ์ภายนอก

เป็นกล่องกระดาษสีเขียวอ่อน ระบุชื่อผลิตภัณฑ์ชัดเจน 
บอกวิธีการใช้งาน มีอักษรเบลล์ด้านข้างด้วยใส่ใจดีจัง




บรรจุภัณฑ์ภายใน

ลักษณะเป็นขวดสีเหลือง มีชื่อผลิตภัณฑ์ชัดเจน 
ด้านบนเป็นฝาเปิด-ปิดได้ ด้วยการหมุนซ้ายชวา ให้ล๊อคตรงคำว่า ON/OFF พอดี
มีพัฟบรรจุอยู่ภายใน มาพร้อมพัฟรีฟีลอีก 1 ชิ้น เนื้อสัมผัสนุ่ม หยิบจับถนัดมือ





ปอยทำรีวิวพร้อมวิธีการใช้งานในรูปแบบ VDO มาให้ดูกันด้วย
ลองกดเข้าไปดูกันนะคะ จะได้เห็นภาพวิธีการใช้งานได้มากขึ้น :)



วิธีการใช้งาน

หมุนฝาขวดไปที่ ON ให้ดังแกร๊ก
เขย่าขวดขึ้น-ลง ประมาณ 2-3 ครั้ง 
จากนั้นกดฝาให้เนื้อผลิตภัณฑ์ออกมา กด 2-3 ที 
เปิดฝา หยิบพัฟที่มีเนื้อกันแดด ทัชลงบนผิวเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า

Before

After
หลังจากใช้พัฟทากันแดดเรียบร้อย จะสังเกตเห็นความแตกต่างได้ทันทีเลยว่า
ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น เนียนเรียบ ความเย็นของเนื้อกันแดด ยังช่วยลดอุณหภูมิผิว 
ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรอีกด้วยน้า

ความรู้สึกหลังใช้

ชอบที่สุด คือ เนื้อครีมกันแดดของ  Nature Republic Ice Sun
เมื่อสัมผัสลงบนผิวแล้วแบบเย็นสบายผิวสุดๆ ไม่ทิ้งความมัน ทัชได้ระหว่างวัน ดี๊ดี
เป็นกันแดดที่พกพาสะดวก ใช้งานได้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะ ไม่เลอะเทอะ สะอาดเพราะใช้พัฟ 
แถมยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย


มาให้คะแนนกันบ้างดีกว่า

บรรจุภัณฑ์ สวยงาม หยิบจับถนัดมือ พกพาสะดวก >> 10 คะแนน
วิธีใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก >> 9 คะแนน
เนื้อผลิตภัณฑ์ ให้ความเย็นสบายผิว และช่วยปรับให้ดูกระจ่างใส ไม่เหนี่ยวเหนอะหนะ >> 10 คะแนน
การป้องกันแสงแดด มี SPF มากถึง 50 มีประสิทธิภาพมากๆ >> 9 คะแนน
ราคาขวดละ 990 บาท หาซื้อได้ตามช้อป Nature Republic >> 8 คะแนน

โดยรวมแล้วให้ 9 / 10 ไปเลยค่า หักตรงราคานิดนึง ^^"

......................................................................


เรียกได้ว่า Nature Republic Provence Calendula Ice Puff Sun SPF 50 PA+++
กลายเป็นกันแดดลูกรักไปแล้วในตอนนี้ ใช้งานง่ายมากจริงๆ 
เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจสามารถดูรายละเอียดสาขาและติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/NatureRepublicTH

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันน้า วันนี้ลาไปก่อนแล้ว 
บ๊ายบายค่าาาาา ^0^


วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

REVU.NET เว็บไซต์สำหรับคนรักการรีวิว เลือกของที่ชอบ ได้ของที่ใช่ รีวิวแบบไหน ตามไปมุงกัน


อยากลองใช้อันนั้นจัง อยากลองกินอันนี้จัง อยากลองนู่นนี่นั่น! 
เคยเป็นกันมั้ย อยากลอง แต่บางทีอะไรๆ มันก็ไม่ได้มาฟรีๆ ป่ะ?

วันนี้ปอยมีเว็บไซต์ ที่ให้เพื่อนๆ ได้แชร์ประสบการณ์ผ่านการเขียนรีวิวได้ด้วยตัวเองในแบบที่ไม่เหมือนใคร มาแนะนำกันค่ะ

นี่เลย!       REVU.NET  

เว็บไซต์ที่ให้เพื่อนๆ ได้เลือกของที่ชอบ ได้ของที่ใช่ ไปลองใช้กันแบบฟรีๆ แล้วรีวิว เป็นอันเสร็จ!
ง่ายจนใครๆ ก็เป็น Blogger ได้ แม้แต่มือใหม่ก็ยังสบาย!

credit: https://www.facebook.com/revuthailand
แค่ 3 Step ง่ายๆ 

Register > Choose Campaign > Get Product or Service
(สมัคร > เลือกแคมเปญ > รับของหรือบริการ)


แค่นี้ก็ดูน่าสนใจขึ้นแล้วสิ ตามไปมุงกันเลยดีกว่า
เข้าเว็บไซต์ revu.net


นี่เป็นหน้าแรกของเว็บไซต์ revu.net ค่ะ
จะเห็นโลโก้ของเว็บไซต์ชัดเจนทางด้านซ้าย ส่วนทางด้านขวาจะมี 3 แถบ ได้แก่ Service Guide / Sign Up และ Login



Step 1 : Register

เริ่มกันที่ Step 1 : Register หรือการสมัครสมาชิกเว็บไซต์ revu.net กันก่อนเลย

เลือกที่ Sign Up ทางขวามือด้านบน ตามที่ปอยทำไว้ให้ดูด้านล่างเลยค่ะ :)



หลังจากกดเข้ามาแล้ว จะนำเรามาสู่หน้า Sign Up ของเว็บไซต์ค่ะ
ในส่วนนี้ให้เรากรอกข้อมูล อันได้แก่ อีเมล, ชื่อเล่น, รหัสผ่าน, รหัสผ่านอีกครั้ง และ Etc.(เพศ) นะคะ

เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อย ก็กด Join หรือแถบสีฟ้าด้านล่างได้เลย
แต่ยังไม่เรียบร้อยนะคะ เราต้องไปกด Verify ในเมล์ที่ทาง Revu ส่งมาให้เราก่อน เพื่อยืนยันการเข้าใช้งานเว็บไซต์กันค่ะ



หน้าตาของอีเมลก็ประมาณนี้ค่ะ เราสามารถตรวจสอบได้ที่หน้า E-Mail ของตัวเอง จะพบกับอีเมลที่ถูกส่งมาจาก Revu 
กดที่ Link สีฟ้าตามภาพได้เลยค่ะ เท่านี้เราก็เป็นสมาชิกเว็บไซต์ revu กันแล้ว



พอเข้าหน้าเว็บ ใช้งานได้เรียบร้อย ให้เพื่อนๆ ไปจัดการเพิ่มข้อมูลส่วนตัวกันก่อนที่ Setting นะคะ
กดที่รูปของเราทางขวามือด้านบน แล้วจะเจอ 5 เมนูย่อยค่ะ เลือกอันที่ 3 คือ Setting(ตั้งค่า) ค่ะ


จะพบกับหน้านี้ 
ทางด้านซ้ายมือจะเป็น Profile ให้เราอัพโหลดภาพของตัวเองและกรอกข้อมูลสั้นๆ
ส่วนด้านขวามือ จะเป็น Social Media อันนี้สำคัญมากนะคะ 
เรามาดูข้อมูล Social Media กันดีกว่าค่ะ ไปกันช้าๆ เนอะ จะได้ไม่งงกัน ^^

ในส่วน Social Media นี้ เราจะต้องเชื่อมต่อข้อมูลระหว่าง Blog, Facebook และ Instagram ของเราเอง
Blog : สามารถสมัครได้ง่ายๆ ที่แนะนำก็มีของ Bloggang / Blogger / Wordpress 
Facebook : สมัครได้ที่ Facebook 
Intragram :  อันนี้จะมีหรือไม่มีก็ได้ สมัครได้ที่ Instagram

สำหรับเพื่อนๆ ที่มีช่องทางพวกนี้อยู่แล้ว สามารถใส่ URL ของ Blog เพื่อเชื่อมต่อได้เลย
ส่วน Facebook กดเชื่อมต่อได้เลย หากใครมี Facebook Page ให้เลือกเชื่อมต่อเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
และ Instagram ใส่ URL ก็เป็นอันเรียบร้อย

** สามารถกดแถบสีฟ้าทางขวามือที่เขียนว่า How to ... ของแต่ละส่วน เพื่อดูขั้นตอนและวิธีในการ Add เพิ่มเติมได้ด้วยนะ ** 



เลื่อนลงมาด้านล่างของหน้าเดิม จะพบส่วนของ Information ส่วนนี้สำคัญตรง "ที่อยู่"
เพราะหากเราใส่ข้อมูลไม่ถูกต้อง ของก็จะมาไม่ถึงมือเรานะจ๊ะ ^^

ในส่วนของ Information เราต้องใส่ ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทร และบัญชีธนาคาร

เอ๊ะ! อย่าเพิ่งทำหน้างงกันนะ ว่าทำไมต้องมีบัญชีธนาคาร
ก็เพราะเมื่อเราได้รับของที่เลือกไว้มาแล้ว ให้เราใช้แล้วเขียนรีวิวของชิ้นนั้น ส่งให้ทาง reve.net นั่นเองค่ะ
และถ้าหากเลยกำหนด ทางเว็บไซต์จะเรียกเก็บเงินจากเราตามมูลค่าของสินค้าหรือบริการที่ได้รับมานะจ๊ะ
เพราะงั้นอย่าลืมเขียนรีวิวส่งให้ทันกำหนดกันด้วยน้า

หลังจากนั้นก็กดปุ่ม SAVE CHANGES ด้านล่าง เป็นอันเสร็จขั้นตอน Step 1 ค่ะ ^^


..................................................................

Step 2 : Choose Campaign

เอาล่ะ! มาถึงวิธีการสมัครรีวิวแคมเปญต่างๆ ของทางเว็บ
ในขั้นตอนนี้ เป็นการเลือกสินค้าหรือบริการที่เราสนใจกันแล้วค่ะ
กลับมากันที่หน้าแรกเลย จะเห็นแคมเปญต่างๆ ให้เรากดเลือกกันได้ตามสบายเลย
(กดที่โลโก้ revu ทางด้านซ้ายมือบน ก็กลับเข้าสู่หน้าแรกของเว็บไซต์ได้ง่ายๆ เลยค่ะ)



มีให้เลือกเพียบเลยเห็นมั้ย จะสังเกตเห็นว่าตรงแถบด้านบนมีเขียนว่า Services กับ Products ใช่มั้ยคะ
Services ก็คือบริการต่างๆ แยกย่อยเป็น Babies & Kids / Beauty Services / Cafe & Restaurant /Hotels & Resort
Product ก็คือสินค้าของกินของใช้ แยกย่อยเป็น Babies & Kids / Beauty / Heath / IT&Gadgets / Lifestyle / Pets
ในส่วนนี้จะทำให้เราเลือกสินค้าหรือบริการที่ต้องการได้ง่ายขึ้นค่ะ เพราะ revu แยกเป็นหมวดหมู่ให้ชัดเจนแล้ว

หลังจากนั้นเราก็กดเลือกตามที่ต้องการได้เลยนะคะ 


เลือกได้เฉพาะแคมเปญที่มีสีสันสดใสนะคะ ส่วนอันที่สีหมองๆ แล้วมีแถบสีเทาคาดเขียน Cloesed for Application 
จะเลือกไม่ได้เพราะหมดเขตร่วมแคมเปญแล้ว เรามาช้าไป T^T



เอาล่ะ เลือกของที่ต้องการ/ถูกใจ ได้แล้วก็เข้าไปดูรายละเอียดกันดีกว่า

อย่างปอยอยากรีวิวลิปก็กดเข้ามาดู จะพบหน้ารายละเอียดแบบนี้ 
ให้เราดูรายละเอียดคร่าวๆ ว่าเว็บให้เรารีวิวแบบไหน ต้องการอะไรบ้าง
ที่สำคัญดูตรง Apply Period ให้ดีๆ ว่าเราสามารถรีวิวได้ภายในวันที่กำหนดได้รึเปล่า
(ทำไม่ทัน ระวังโดนเก็บเงินเอาได้นะจ๊ะ เพราะงั้นดูให้ดี)


ด้านล่างก็จะมีรายละเอียดให้เราได้อ่านกัน ควรอ่านนะเพราะเขาจะบอกว่า เราได้อะไรมาและต้องทำอะไรบ้าง 
มาดูแต่ละส่วนกันเลยดีกว่าค่ะ

Offer : จะบอกว่าสินค้าหรือบริการนั้นมีชื่อว่าอะไร ได้รับจำนวนเท่าไหร่
Keyword : อันนี้สำคัญ เพราะเราจะต้องมีคำเหล่านี้ ใช้ในการเขียนรีวิว เป็นคำที่เขาต้องการ เพราะงั้นห้ามลืมใส่ตอนเขียนรีวิวกันนะ 
Terms & Conditions : ข้อตกลงและเงื่อนไขของแคมเปญนั้นๆ 
เช่น revu จะเป็นคนเลือกสีของสินค้านั้นให้เอง หรือ จัดส่งสินค้าให้โดยไม่สามารถเปลี่ยนได้ เป็นต้น
Must-do : สิ่งที่ revu ต้องการให้เรารีวิว ว่าต้องมีอะไรบ้าง หรือเรียกง่ายๆว่า สิ่งที่เราต้องเขียนรีวิวนั่นเอง


หลักๆ ที่ควรดูรายละเอียดของแคมเปญก็มีประมาณนี้ :)
เลื่อนลงมาด้านล่างจะเจอ Image Information เป็นส่วนที่เราได้เห็นภาพของสินค้าและบริการที่เราเลือก



เลื่อนลงมาอีก จะเจอส่วนที่เป็น Question สำหรับถามสิ่งที่เราสงสัยเกี่ยวกับแคมเปญนี้ได้
แค่พิมพ์คำถามทิ้งไว้ แล้วรอการตอบกลับจากทาง revu ค่ะ (revu จะส่งอีเมลการตอบกลับคำถามมาให้ด้วยนะ)

ในส่วนของ Information เป็นช่องให้เรากรอกข้อมูลของที่อยู่ในการจัดส่ง
แต่ถ้าเราผ่านขั้นตอนการ  Setting ใน Step 1 มาแล้ว ก็สามารถกดตรงแถบสีม่วง 
เขียนว่า Use your default info. ที่อยู่ใต้คำว่า Information ได้เลย 
ไม่ต้องกรอกที่อยู่ให้วุ่นวาย กดทีเดียวข้อมูลก็มาครบ!


ถัดลงมาในส่วนสุดท้ายของหน้าแคมเปญแล้วล่ะ! ตรงส่วนนี้จะประกอบไปด้วย
Essential Information : เป็นส่วนข้อมูลสำคัญที่ทาง revu ใช้ในการคัดเลือกการมอบสินค้าและบริการให้กับเราค่ะ
เป็นคำถามง่ายๆ ที่ให้อิสระในการเขียนตอบ เพราะงั้นเขียนได้เต็มที่เลยค่า  ^^

Check : อ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ให้เรียบร้อย ปอยสรุปมาให้ง่ายๆ ก็มี
หากส่งรีวิวไม่ทันกำหนดจะขอเรียกเก็บเงินตามจริง, ห้ามลบรีวิวเป็นเวลา 6 เดือนและเปิด public ไว้ในโพสที่แชร์ไปทาง Facebook 
หากไม่ทำตามขอเรียกเก็บเงิน, แบรนด์สามารถเอารีวิวของคุณไปเผยแพร่ในช่องทางออนไลน์ได้ 
สุดท้ายสินค้าและบริการที่ได้รับ ไม่สามารถนำไปขายต่อหรือโอนสิทธิ์ให้บล๊อคเกอร์ท่านอื่นได้

อ่านเงื่อนไขเรียบร้อยแล้วก็ติ๊กถูกให้ครบทุกข้อ 
แล้วกดที่แถบสีฟ้าที่เขียนว่า "Submit this Application" ได้เลย


หลังจากกดสมัครเข้าร่วมแคมเปญนี้แล้ว แคมเปญจะโชว์แถบสีฟ้าม่วงแบบนี้ขึ้นมา
ถือว่าเป็นอันเสร็จเรียบร้อยจ้า เพียบแค่นี้ก็รอการคัดเลือกจากทางเว็บไซต์ได้เลย!


..................................................................

Step 3 : Get Product or Service

หลังจากที่เราเลือกสินค้าหรือบริการที่สนใจเรียบร้อยแล้ว ก็รอเวลาในการคัดเลือก
หากเราได้รับเลือกก็จะมีอีเมลส่งมาให้ แล้วของก็จะถูกส่งมาตามที่อยู่ที่เรากรอกไว้นั่นเอง ^^

สัญลักษณ์ที่บอกว่าเราได้รับเลือกจะมีข้อความเขียนว่า "Select & Posting" จะได้รับของไปรีวิวนั่นเอง
ให้เรากดเข้าไปใน แคมเปญที่เราได้รับเลือกจะพบกับ Step 3 คือการส่งรีวิวนั่นเองค่ะ


ในส่วนนี้ให้ดูตรง Posting Period ไว้ให้ดีๆ นะคะ เพราะสำคัญมากๆ 
เป็นกำหนดการต่างๆ ของแคมเปญนั่นเองค่ะ อย่างในตัวอย่าง 
30 May คือ วันเริ่มต้นแคมเปญ
6 Jun คือ ช่วงวันคัดเลือก
21 Jun คือ วันหมดเขตส่งรีวิว
27 Jun คือ วันประกาศผล Best Reviewer (เขียนดี เขียนโดน เป็น The Best ไปเลย)


แถบสีฟ้าม่วงนี้ ยังแสดงให้เห็นว่าเราได้รับคัดเลือกให้รีวิวสินค้าหรือบริการนี้ได้ด้วยนะคะ
Congratulation! You are selected!


หลังจากที่เราได้ลองใช้เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเขียนรีวิว!! 
ให้เราเขียนใน Blog ของตัวเองได้เลย 
ที่สำคัญ! อย่าลืมเงื่อนไขต่างๆ ได้แก่ Keyword กับ Must-do ที่ทางเว็บกำหนดไว้ให้ด้วยนะคะ

..............................

วิธีการส่งงานเข้ามาในเว็บไซต์ 
ให้เลื่อนลงมาด้านล่าง จะพบ Step 1 : Insert Code 
เราจะต้องเอา Code ของทาง revu เข้าไปแปะในรีวิวของเราก่อนนะคะ

<div><a href="http://th.revu.net/link/p/57341363425b0654741727" target="_blank"><img src="https://th.withblog.io/post/57341363425b0654741727.5723a31c10bed269873360.png"/></a></div>

เมื่อใส่เสร็จเรียบร้อยเราจะเห็น    ขึ้นใน Blog ของเราค่ะ 
ส่วนเพื่อนๆ คนไหนใส่ไม่เป็น สามาถกดดู How to insert Sponsor Banner Code ได้เลยค่ะ


เมื่อเสร็จ Step1 ก็มาต่อกันที่ Step2 กันต่อเลย ให้เราเลือก post ของเราตามภาพด้านล่างได้เลยค่ะ
หรือจะใส่ Link (URL) เลยก็ได้นะคะ


เสร็จเรียบร้อย มาเข้า Step3 กันค่ะ
ให้เราโพสไปยัง Facebook ที่ได้เชื่อมต่อกันไว้ค่ะ แล้วกด Share on Facebook ตามนี้เลย ^^



เป็นอันเสร็จสิ้นการส่งรีวิวเรียบร้อยค่ะ เย่ๆ ^0^

หลังจากการส่งรีวิวให้ทาง revu เรียบร้อยแล้ว ยังมีอีกสิ่งนึงที่เรียกว่า Best Reviwer ด้วยนะคะ
เป็นการมอบถ้วยรางวัลให้กับ Reviwer ที่เขียนได้ถูกต้อง เขียนได้ดี เขียนได้โดนใจ
ทาง revu ก็จะขึ้นให้เป็น Best Reviwer ค่ะ เป็นการให้กำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน
แถมยังการันตีคุณภาพงานของ Reviwer อีกด้วยนะคะ โดยคนที่ได้ Best Reviwer บ่อยๆ ก็จะมีโอกาสได้รับคัดเลือกในแคมเปญต่อๆ ไปด้วยค่า

...........................................................

สรุปแล้ว REVU.net เหมาะกับ Blogger ที่ชื่นชอบการเขียนรีวิว 
คนที่อยากลองของใหม่หรือของใช้หรือบริการแบบฟรีๆ 

สำหรับปอยมองว่าเป็นการสร้าง Port ให้กับตัวเองอย่างนึงนะ
การที่เราได้ของมาใช้จริง เขียนรีวิวตามจริง ก็เป็นการแชร์ในสิ่งที่เราอยากแชร์
และเราก็ได้เป็นคนเลือกของเองด้วย แถมยังเห็นข้อกำหนดชัดเจน อยู่ในระยะเวลาที่กำหนด 
ฝึกให้เรารับผิดชอบตัวเอง และรู้การทำงานต่างๆ ในการเขียนรีวิว

การที่ Blog หรือ Page มีการอัพเดทสม่ำเสมอ ทำให้คนเห็นเราและรู้จักเราได้มากขึ้น
มีโอกาสได้พัฒนา ฝึกฝน สร้างสรรค์ผลงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนำไปสู่การเป็น Blogger ที่มีคุณภาพได้ในอนาคต

แถมเราสามารถเห็นผลงานของเพื่อนๆ Blogger  คนอื่นๆ ได้ด้วย 
ทำให้เรารู้จักเพื่อนร่วมแนวทางเดียวกันมากขึ้น เข้าไปอ่าน ติดตาม ได้ตามเพจหรือ Blog ของสมาชิก
เป็นสังคมอีกสังคมนึงที่น่าสนใจมากขึ้นเลยทีเดียว

หวังว่าเพื่อนๆ จะใช้งานเว็บไซต์ revu.net กันได้เพิ่มมากขึ้นนะคะ
แล้วอย่าลืมกดแชร์ ชักชวนเพื่อนๆ ที่ชอบรีวิวมาร่วมใช้งานเว็บนี้มากขึ้นนะคะ

รอเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกันอยู่น้า ^^

สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน เผื่อได้จัดกระเป๋า เตรียมตัวไปเที่ยวเกาหลี อิอิ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันน้า บ๊ายบายยยย :)